ข้อห้ามหลังเสริมอก

อกเล็กอกใหญ่ไม่หมือนกันตั้งแต่เกิดนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่แม่ให้มา บางคนโตเป็นวัยรุ่นเป็นสาวอกเล็กอกใหญ่อกแบน ไม่พอใจก็ทำงานเก็บเงินเพื่อไปเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นจากเดิมที่หน้าอก 32 , 33 ไปเสริมหน้าอกเพื่อให้ใหญ่ขึ้นขนาดพอ ๆ กับนางแบบบ้านเราคือ หน้าอก 36 อกใหญ่ไม่พอเดี๋ยวนี้เขานิยมหัวนมสีชมพูอีกด้วย แต่ว่า หัวนมดำหรือน้ำตาล มันอยู่ข้างในไม่ใช่หรอครับ มีเสื้อชั้นในปิดอยู่ ไม่ถอดออกมาใครจะเห็นได้ว่าหัวนมดำ หรือหัวนมชมพู ว่าแต่ต้องไปทำทำไมให้เสียเงิน  แต่เมื่อเราต้องการเสริมหน้าอก สิ่ง ข้อห้ามหลังเสริมอก มีข้อห้ามอะไรบ้าง บทความนี้จะแนะนำท่านให้รู้เช่นเห็นกระจ่างเองครับ

ข้อห้ามหลังเสริมอก ด้วยคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

รูปแบบของการเสริมอก

การผ่าตัดเสริมหน้าอกในปัจจุบันแบ่งเป็น 2 แบบ สามารถทำแบบใดแบบหึ่งหรือทำร่วมกันทั้งสองอย่างได้ในครั้งเดียว ดังต่อไปนี้

  1. การเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียม
  2. การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง เป็นวิธีการที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพื่อใช้เนื้อเยื่อของตนเอง ไม่ใช้วัตถุแปลกปลอมในการเสริมหน้าอก มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่ก็มีข้อจำกัดหลายเรื่องเช่นกัน เช่น จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติม เช่น การดูดไขมัน ต้องมีอุปกรณ์ในการดูดไขมันโดยเฉพาะ และการอยู่ตัวของไขมันที่ฉีดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

ซิลิโคนในการเสริมอก

ซิลิโคนในการเสริมอกในปัจจุบันเกือบทั้งหมดจะใช้ซิลิโคนเจล ซึ่งผิวภายนอกเป็นถุงซิลิโคนและภายในมีลักษณะเป็นเจล ผิลภายนอกซิลิโคน มี 2 ชนิด ได้แก่

  1. ผิวภายนอกซิลิโคนชนิดหยาบหรือผิวทราย
  2. ผิวภายนอกซิลิโคนแบบผิวเรียบ

ยังมีรูปทรงต่าง ๆ หลายชนิดให้เลือก เช่น ทรงกลม , ทรงหยดน้ำ รวมท้งขนาดและความนูนในระดับต่าง ๆ อีกด้วย

ปัจจุบันข้อห้ามหลังเสริมอก ซิลิโคนเต้านมเทียมมีคุณภาพและความคงทนที่ค่อนข้างดีไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามเวลา 5 ปี หรือ 10 ปี ส่วนของเต้านมเทียมผิวขรุขระหรือผิวทราย ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมในประเทศไทย ข้อมูลระบุว่าสามารถลดการเกิดพังผืดหดรัดและมีพื้นผิวที่สามารถยึดเกาะได้ดี จึงเหมาะกับซิลิโคนเต้านมบางประเภท เช่น ทรงหยดน้ำ ซึ่งต้องการการยึดเกาะที่ดี เพื่อให้ไม่มีการพริกหรือหมุนตัว ต้องการการยึดเกาะที่ดี เพื่อให้ไม่มีการพลิกหรือหมุนตัว แต่ละยี่ห้อจะมีความละเอียดผิวทรายที่แตกต่าง ตั้งแต่แบบหยาบหรือขรุขระมาก จนถึงแบบละเอียด ควรเลือกซิลิโคนผิวขรุขระให้เหมาะสมภายใต้คำแนะนำของศัลยแพทย์และมีการเฝ้าระวังและตรวจเช็คหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ

วิธีการเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอก

การเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ศัลยแพทย์จะใช้ข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และแนะนำในการเลือกชนิดซิลิโคนและขนาดที่เหมาะสม

  • ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
  • ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก

ผ่าตัดเสริมอก

การผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถเลือกบริเวณของแผลผ่าตัดที่จะใช้ในการใส่ซิลิโคนได้ ประกอบไปด้วย

  • ใต้ราวนม การผ่าตัดแผลใต้ราวนม สามารถจัดวางตำแหน่งได้ถูกต้อง เสียเลือดน้อย และฟื้นตัวได้รวดเร็ว ใช้เป็นแผลผ่าตัดหลักในกรณีที่ทำการแก้ไขหรือเปลี่ยนซิลิโคน
  • ใต้รักแร้หรือรอบปานนม การผ่าตัดแผลใต้รักแร้และบริเวณหัวนมจะทำได้ยากกว่า มีการช้ำและเสียเลือดมากกว่า การพักฟื้นใช้เวลาได้นานกว่า

ตำแหน่งของการวางซิลิโคน

ตำแหน่งในการวางซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อหรือใต้เนื้อหน้าอก ซึ่งศัลยแพทย์จะแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมกับแต่ละคน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น

  • ความหนาของเนื้อบริเวณหน้าอก
  • ความหย่อนคล้อยของหน้าอก
  • ลักษณะของทรวงอก

การเตรียมตัวก่อนการเสริมอก

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมอก ได้แก่

  • ตรวจร่างกาย
  • ตรวจเลือด
  • เอกซเรย์ปอด
  • ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์
  • งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  • หยุดยาที่รับประทานบางชนิดก่อนการผ่าตัด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วิตามิน หรือ สมุนไพร
  • หยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 4 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด

กระบวนการเสริมอก

กระบวนการเสริมอกจะทำเป็นขั้นตอน ได้แก่

  • วิสัญญีแพทย์ให้การดมยาสลบก่อนเริ่มการผ่าตัด
  • ศัลยแพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัดตามที่ได้วางแผนกับผู้มารับการเสริมหน้าอก โดยทำการเลาะช่องบริเวณหน้าอก ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
  • การผ่าตัดเสริมอกใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง

ภาวะแทรกซ้อนหลังเสริมเต้านม

ภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการเสริมเต้านม ได้แก่

  • ปวด
  • บวม
  • แผลอักเสบ ติดเชื้อ
  • มีน้ำเหลืองหรือเลือดออกากแผลผ่าตัด
  • คลำได้ก้อนบริเวณหน้าอก
  • ผลข้างเคียงจากยาสลบ ยาแก้ปวด เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
  • ผลระยะยาวจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเกิดพังผืดหดรัดการเคลื่อนตำแหน่งของซิลิโคน การหย่อนคล้อยของหน้าอก รวมทั้งการผิดรูป เช่น การแข็งตัวหรือเสียรูปทรง หรือการแตกของถุงซิลิโคน

การดูแลหลังเสริมหน้าอก

  • การดูแลแผลผ่าตัด ในสัปดาห์แรกสามารถอาบน้ำได้เนื่องจากแพทย์จะทำการปิดฟิลม์กันน้ำ แต่หลีกเลี่ยงการลงไปแช่ในน้ำหรือว่ายน้ำในสระ หลังจากพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คและแผลหายดีแล้วจะมีการแนะนำให้ใช้ครีมทาแผลเป็นหรือแผ่นซิลิโคนปิดแผลเป็น
  • การดูแลหน้าอกหลังใส่ซิลิโคน แนะนำให้ใส่บราชนิดไม่มีโครงอย่างน้อย 1 เดือน หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก และการออกกำลังกายที่ใชแขนมากในช่วง 1 เดือนแรก
  • การดูแลอื่น ๆ ได้แก่ งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ รวมทั้งการกินของหมักดอง อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • การดูแลในระยะยาว หมั่นตรวจเช็กหน้าอกด้วยตัวเองและตรวจเมมโมแกรมตามกำหนด

ข้อห้ามหลังเสริมอก ไม่อยากเลยนะครับ ถ้าอยากสวยอยากอกใหญ่ขึ้น ก็ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อผลในระยะยาว และสวยงาม ไม่มีผลเสียเกิดขึ้นกับหน้าอกที่เราไปเสริมมา

Similar Posts